วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

น่าไปนะ วันไหลพระปรง





19 เมษายน วันไหลสระแก้ว ร่วมสรงน้ำขบวนแห่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 109 องค์ ใหญ่ที่สุดในประเทศ

19 เมษายน วันไหลสระแก้ว ร่วมสรงน้ำขบวนแห่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 109 องค์ ใหญ่ที่สุดในประเทศ
วัฒนธรรมจังหวัดเผยเพื่อส่งเสริมปีท่องเที่ยวสระแก้ว 2553  ปรับรูปแบบแห่สรงน้ำเจ้าพ่อพระปรงให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น เป็น ขบวนแห่สรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 109 องค์” จากทั้งจังหวัดสระแก้ว  นายกฯ กู้ภัยฝากผู้เดินทางผ่านตัวเมืองสระแก้ววันที่ 19 เมษายนนี้ ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
   นางเกศินี สวัสดี วัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ทุกวันที่ 19 เมษายนทุกปี เป็นวันแห่เจ้าพ่อพระปรง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดสระแก้วให้ความเคารพนับถือ  โดยคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อฯ ร่วมกับหน่วยงาน ทั้ง ท้องถิ่น ตำรวจ สาธารณสุข องค์กรภาคประชาชน อาทิ สมาคมรักษ์ปางสีดา สมาคมกู้ภัยสว่างสระแก้ว คณะกรรมการศาลเจ้าพ่อพระปรง  จัดขบวนแห่สรงน้ำเจ้าพ่อพระปรงจากศาลเจ้าพ่อฯ เขต อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รอยต่อกับจังหวัดสระแก้ว  มาตามถนนสุวรรณศรจนถึงศาลากลางจังหวัด ระยะทางกว่า 30 กม. เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสรงน้ำ ก่อนจะแห่กลับในตอนเย็น  ในระหว่างทางจะมีชาวสระแก้วและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาร่วมสรงน้ำเจ้าพ่อพระปรงและเล่นน้ำสงกรานต์กันเป็นจำนวนมาก จนเรียกได้ว่าเป็น วันไหลของจังหวัดสระแก้ว” เป็นการส่งท้ายเทศกาลสงกรานต์ที่ใหญ่ที่สุดและถือเป็นประเพณีปฏิบัติกันมาเป็นเวลานาน
   ในปีนี้ คณะกรรมการฯ ได้จัดประชุมเตรียมงานไปเมื่อเร็วๆนี้  โดยในปีนี้รูปแบบการจัดขบวนแห่จะเปลี่ยนไปจากเดิม โดยจะปรับรูปแบบให้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น สอดรับกับปีท่องเที่ยวจังหวัดสระแก้ว ไม่เหมือนกับจังหวัดอื่น โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดได้ประสานงานกับวัดต่างๆ ในทุกอำเภอ  เพื่ออัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หรือพระเกจิอาจารย์ชื่อดังซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในแต่ละพื้นที่ จำนวน 109 องค์ มาประดิษฐานบนรถร่วมขบวนแห่กับเจ้าพ่อพระปรง  ภายใต้ชื่องาน สายน้ำแห่งศรัทธา สรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 109 องค์” โดยขบวนพระจะมาสมทบกับขบวนเจ้าพ่อพระปรงที่ตลาดผัก ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว เรื่อยไปจนถึงศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร เป็นขบวนแห่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  เพื่อต้องการให้ประชาชนได้สรงน้ำพระศักดิ์สิทธิ์จากทั้งจังหวัด เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อให้ประชาชนรู้รักสามัคคีด้วยประเพณีไทย นำไปสู่ประเทศชาติสงบร่มเย็น
  วัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดสระแก้วและนักท่องเที่ยวได้มาร่วมสรงน้ำพระในงาน สายน้ำแห่งศรัทธา สรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์109 องค์” หรือวันไหลจังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 19 เมษายน 2553 ตามถนนสุวรรณศรจากศาลเจ้าพ่อพระปรงมายังศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป และเวลา 16.00 น. ขบวนแห่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 109 องค์ จะมาจอดภายในศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้วให้ประชาชนได้มาร่วมสรงน้ำ
   นายวิวัฒน์ ลีลาลลิตเลิศ นายกสมาคมกู้ภัยสว่างสระแก้ว เปิดเผยว่า เนื่องจากปีนี้รูปแบบขบวนเปลี่ยนไปจากเดิม เส้นทางการเคลื่อนขบวนก็จะเปลี่ยนไปด้วย  โดยขบวนจะออกจากศาลเจ้าพ่อพระปรง เวลา 10.00น. ก่อนเข้าชุมชนบ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว แล้วมาตามถนนสุวรรณศร เมื่อมาถึงตำบลศาลาลำดวน ขบวนจะไม่เข้าไปในตลาดเหมือนเมื่อก่อน แต่จะค่อยๆ เคลื่อนไปตามถนนสุวรรณศร เพื่อสมทบกับขบวนพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ตลาดผักศาลาลำดวน เป็นขบวนใหญ่มากขึ้น แล้วจึงจะเคลื่อนไปสู่ตลาดสระแก้วก่อนไปจอดที่ศาลากลางจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ข้าราชการและประชาชนได้ร่วมสรงน้ำ  จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังชุมชนต่างๆ เพื่อความเข้าใจและในปีนี้ยังได้ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้วคอยอำนวยความสะดวกการจราจรและดูแลรักษาความเรียบร้อยแก่ผู้มาร่วมงาน  โดยขอให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่จะเดินทางมาตามถนนสุวรรณศรผ่านตัวเมืองสระแก้ว ในวันที่ 19 เมษายน 2553 ตั้งแต่เวลา 11.00-18.00 น. ได้โปรดเลี่ยงไปใช้เส้นทางจราจรอื่น เนื่องจากจะมีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

น้ำตกปางสีดา



น้ำตกปางสีดา มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเมืองสระแก้ว อำเภอวัฒนานคร อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 844ตารางกิโลเมตร หรือ 527,500 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 อาณาเขตทางด้านทิศเหนือทั้งหมดกับด้านทิศตะวันตกบางส่วนมีแนวป่าต่อเนื่องกับอุทยานแห่งชาติทับลาน สภาพป่าเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน ทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และป่าทุ่งหญ้าเป็นต้น เป็นป่าที่มีความสมบูรณ์ประกอบด้วยสัตว์ป่าหายากและนกกว่า 300 ชนิด เช่น กระทิง ช้าง เก้ง กวาง หมูป่า นกเงือก นกยูง นกขุนทองและมีผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ตลอดทั้งปี
เป็นแหล่งจระเข้น้ำจืดที่ยังเหลืออยู่ และยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสายเช่น ห้วยโสมง ห้วยน้ำเย็น ห้วยพระปรง ห้วยพลับพลึง ห้วยยาง ห้วยเลิงไผ่ ฯลฯ ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงหรือแม่น้ำปราจีนบุรี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของภาคตะวันออกภายในอุทยานฯ มีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่
น้ำตกปางสีดา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 800 เมตร เป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผา 3 ชั้น สูงประมาณ 8 เมตร ตัวน้ำตกไหลลงสู่เบื้องล่างเป็นแอ่งน้ำกว้างใหญ่และลานหิน บรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การเล่นน้ำ และมีน้ำมากในฤดูฝน
น้ำตกผาตะเคียน อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากน้ำตกปางสีดาประมาณ 2.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางเท้าได้ 2 เส้นทาง มีป้ายบอกตลอดเส้นทางทุก ๆ 300 เมตร ตลอดเส้นทางขึ้นสู่น้ำตกร่มรื่นด้วยแมกไม้หนาทึบ เป็นน้ำตกชั้นสุดท้ายที่อยู่สายเดียวกับน้ำตกปางสีดา น้ำตกทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตร เหมาะสำหรับเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ทุ่งหญ้าโป่งกระทิง เดิมเป็นหมู่บ้านเก่าที่กลายเป็นทุ่งหญ้ารกร้าง ภายหลังอพยพผู้คนออกไป มีลักษณะคล้ายทุ่งหญ้าที่มอสิงโตในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีสัตว์ป่าออกหากินบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก ทางอุทยานฯ ได้ทำโป่งเทียมและหอดูสัตว์ไว้ จากถนนภายในอุทยานฯมีทางแยกบริเวณกิโลเมตรที่ 3.5 และกิโลเมตรที่ 6 แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 2กิโลเมตร ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติโป่งกระทิงซึ่งมีโป่งธรรมชาติที่อาจพบสัตว์ป่าได้ไม่ยาก
จุดชมวิว เป็นหุบเขากว้าง ห่างจากที่ทำการไปประมาณ กิโลเมตรที่ 25และกิโลเมตรที่ 35 สามารถชมภูมิประเทศโดยรอบ และชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ สามารถขับรถไปได้จากที่ทำการอุทยานฯ
กลุ่มน้ำตกแควมะค่า จากที่ทำการอุทยานฯ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 40 ให้เดินเท้าต่ออีกประมาณ 6 กิโลเมตร ตัวน้ำตกทิ้งตัวจากหน้าผาสูงประมาณ 70 เมตร เหมาะสำหรับเดินป่า และสามารถกางเต็นท์ได้ ใกล้ ๆ กันยังมีน้ำตกรากไทรย้อย ห่างจากน้ำตกแควมะค่า ประมาณ 500 เมตร น้ำตกลานหินใหญ่ ห่างจากน้ำตกแควมะค่า ประมาณ 1.5 กิโลเมตร น้ำตกสวนมั่น สวนทอง ห่างจากน้ำตกแควมะค่า ประมาณ 3 กิโลเมตร และน้ำตกม่านธารา ห่างจากน้ำตกแควมะค่า ประมาณ 4 กิโลเมตร กลุ่มน้ำตกแห่งนี้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2-3 วัน เนื่องจากเป็นกลุ่มน้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในผืนป่า